โปรแกรม ทัวร์ทิเบต 7 วัน ลาซา – เจียนเซ่ – ชิกัตเซ่
โปรแกรม ทัวร์ทิเบต 7 วัน ตัวนี้เป็นโปรแกรมที่นับจากวันที่เดินทางถึงทิเบต ท่านต้องเผื่อเวลาเดินทางจากต้นทาง การเดินทางเข้าทิเบตทำได้หลายทาง โปรแกรมนี้จะเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินทั้งไปและกลับจากทิเบต
อ่านเพิ่มเติม: การเดินทางเข้าทิเบต
โปรแกรมนี้เหมาะกับผู้ที่มีเวลาไม่เกิน 10 วัน แต่อยากเที่ยวจุดไฮไลท์ของทิเบต นอกเหนือจากเที่ยวภายในกรุงลาซาแล้ว ก็ยังได้เที่ยวเมืองเจียนเซ่ และเมืองชิกัตเซ่ ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของทิเบตอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: ข้อมูลการท่องเที่ยวทิเบต ที่บทความ ทิเบต ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บนหลังคาโลก
รายละเอียด โปรแกรม ทัวร์ทิเบต7วัน ลาซา-เจียนเซ่-ชิกัตเซ่
การเดินทางเข้ากรุงลาซา ของทิเบต สามารถเข้าได้ 3 ช่องทาง
1. บินจากเมืองต่างๆในจีน หรือ บินจากกาฐมัณฑุ เนปาล
2. โดยรถไฟสายชิงไห่-ลาซา
3. ทางรถจากเนปาล (สำหรับทางรถจากจีนนั้นจะยังมีข้อจำกัดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องคอยตรวจสอบสถานการณ์)
อ่านเพิ่มเติม: วิธีการเดินทางเข้าทิเบต, เอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้าทิเบต
เดินทางถึงลาซา ที่ความสูง 3600เมตร จากระดับน้ำทะเล พบกับเจ้าหน้าที่ที่มารอรับเพื่อพาท่านเช็คอินเข้าโรงแรม ให้ท่านพักผ่อนเพื่อให้ร่างการปรับสภาพกับสภาพอากาศที่เบาบางของที่ราบสูงทิเบต ควรดื่มน้ำมากๆ และเคลื่อนไหวช้าๆ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ห้ามนอนคลุมโปง
อ่านเพิ่มเติม: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคแพ้ความสูง และวิธีการปฏิบัติตัว จากบทความนี้ โรคจากการขึ้นที่สูง
คืนนี้พักค้างคืนที่ลาซา (Alt: 3600m) The Tibet Gang-gyan Lhasa Hotel สี่ดาว หรือ เทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
จากนั้นพาท่านเที่ยวชมพระราชวังฤดูหนาวโปตาลา มีบางคนขนานนามว่าเป็นวาติกันแห่งลาซา ที่ซึ่งนักแสวงบุญชาวทิเบตหรือแม้แต่ชาวพุทธทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อยลโฉมและสักการะพระราชวังศักดิ์สิทธิ์ อันเปรียบดังที่ประทับขององค์พระศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ พระราชวังสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13 โดยพระเจ้าซองเซ็น กัมโป โปรดให้สร้างบนเนินเขาแดง พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของกษัตริย์เรื่อยมา จนถึงรัชสมัยของพระเจ้าซองขปะ (Tsongkhapa) พุทธศตวรรษที่ 20 พระลามะผู้ทรงสถาปนานิกายเกลุกปะ (Gelugpa) หรือ นิกายหมวกเหลือง ทรงเริ่มให้มีตำแหน่งดะไลลามะขึ้นเป็นครั้งแรก และทรงปกครองทั้งทางโลกและทาธรรม พระราชวังจึงกลายเป็นพระอารามหลวงไปโดยปริยาย พระราชวังแห่งนี้จัดแบ่งนับได้ 13 ชั้น บนความสูง 700 เมตร หรือจากระดับน้ำทะเล 1,220 เมตร ยาวประมาณ 300 เมตร อาคารถูกแบ่งสีตามลักษณะการใช้งานคือ สีแดง ขาว และเหลือง นับได้ถึง 1,000 ห้อง ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพแม้แต่ห้องเดียว
จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดโจคัง ศาสนสถานสำคัญแห่งนี้สร้างขึ้นในราว พ.ศ.1182-1190 ในรัชสมัยพระเจ้าซองเซ็นกัมโป ปฐมกษัตริย์แห่งทิเบต เจ้าหญิงเหวินเฉินแห่งราชวงศ์ถัง พระมเหสีองค์หนึ่งของพระเจ้าซองเซ็นกัมโป ได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญที่อัญเชิญมาจากบ้านเกิดของตน ที่ตั้งเดิมเป็นทะเลสาบใหญ่ จึงต้องสูบน้ำออกจนหมดและทำพิธีสะกดวิญญาณร้ายให้จมอยู่ใต้ทะเลสาบ ไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเจริญของพุทธศาสนาตามความเชื่อในยุคสมัยนั้น
พาเดินเที่ยวจตุรัสบาคอร์ หรือตลาดแปดเหลี่ยม ที่นี่คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ริมถนนเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ บริเวณทางเดินจัดเป็นสัดส่วน มีแผงขายสินค้าเช่นสมุนไพรจีน ของที่ระลึกที่ทำจากหิน เครื่องเงิน เครื่องประดับของชาวทิเบต เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม กระบอกมนต์ ธงมนต์ ทังก้า ฯลฯ อยู่ติดกับอารามโจคัง
คืนนี้พักค้างคืนที่ลาซา (Alt: 3600m) The Tibet Gang-gyan Lhasa Hotel สี่ดาว หรือ เทียบเท่า
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เที่ยวชมอารามเดรปุง เป็นอาราม 1 ใน 3 วิทยาลัยสงฆ์ที่สำคัญของนิกายเกลุกปะ หรือ นิกายหมวกเหลือง นิกายเดียวกับองค์ดาไลลามะองค์ปัจจุบัน (อีก 2 แห่งคืออารามเซร่า และ อารามกานเดิน) สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1959 โดยจัมยัง โชเจ ศิษย์เอกของท่านซองขปะวัดถูกสร้างขึ้นขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เสร็จภายในเวลาเพียง 1ปี อารามแห่งนี้จัดเป็นอารามที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในทิเบต ที่นี่เคยมีพระมากถึง 10,000รูป ในปัจจุบันมีเพียงประมาณ 300รูปเท่านั้น ภายในอาณาบริเวณของอาราม ประกอบด้วยวิทยาลัยทางศาสนาถึง 4แห่ง มีเพียงบางส่วนที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เล่ากันว่ารูปปั้นของดะไลลามะองค์ที่ 7 ที่ประดิษฐานอยู่ในอารามว่าคือสรีระของพระองค์ แม้สิ้นพระชนม์มาหลายสิบปีแล้ว แต่พระอุระของรูปปั้นยังอุ่นอยู่
บ่าย เดินทางไปเที่ยวยังอารามเซร่า สร้างขึ้นในปีพ.ศ.1962 โดยจัมยัง โชเจ ศิษย์เอกของท่านซองขปะ เป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่สำคัญใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอารามเดรปุง ในอดีตมีพระลามะจำพรรษาอยู่ประมาณ 5,500 รูป เป็นศูนย์กลางของนิกายหมวกเหลือง หรือนิกายเกลุกปะ ซึ่งได้ชื่อว่าเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ที่อารามนี้ เราจะได้ชมการตรรกวิภาษ หรือการโต้ตอบธรรม โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ หลายกลุ่มๆละ 2-5 รูป โดยในแต่ละกลุ่มจะมีพระลามะ 1-2รูปลุกขึ้นกระทืบเท้า ตบมือเหวี่ยงลูกประคำ ทำท่าขึงขัง พร้อมทั้งกล่าวปุจฉา วิปัสสนากับพระลามะที่นั่งอยู่ การโต้ตอบธรรมนี้มีที่มาจากการสอนจากนาลันทามหาวิหารในประเทศอินเดีย แม้ในปัจจุบันมหาวิหารนี้จะล่มสลายเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่วิธีการสอนกลับคงอยู่และแพร่หลายกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการศึกษาธรรมในทิเบต
จากนั้นเดินทางต่อไปยังพระราชวังฤดูร้อนนอร์บูลิงกา อุทยานนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2098 โดยดะไลลามะองค์ที่ 7 และสร้างต่อเติมเรื่อยมาจนในปีพ.ศ.2499 พระตำหนักด้านหน้าสุดซึ่งสร้างขึ้นโดยพระดำริของดะไลลามะองค์ปัจจุบัน พระองคประทับได้เพียง 3ปีก็เสด็จลี้ภัย ยามที่พสกนิกรคิดถึงพระองค์ จะไปชื่นชมหรือสักการะภาพถ่ายซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวหน้าตำหนักนี้
คืนนี้พักค้างคืนที่ลาซา (Alt: 3600m) The Tibet Gang-gyan Lhasa Hotel สี่ดาว หรือ เทียบเท่า
หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เช็คเอ๊าท์ จากนั้นเดินทางไปยัง ทะเลสาบยัมดร๊อก หรือ มีอีกชื่อว่าทะเลสาบสีเทอควอยซ์ มีความสวยงามอย่างมาก ครอบคลุมพื้นที่ 638 ตร.กม. คดเคี้ยวคล้ายรูปแมงป่อง ทะเลสาบแห่งนี้เป็น 1 ใน 4 ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ (อีก 3 แห่งคือ Lhamo La-tso, Manasarovar และ Nam-tso) ชาวทิเบตเชื่อว่าทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่อยู่ของเทพผู้พิทักษ์
จากนั้นเดินทางข้ามแม่น้ำยาร์ลุง ซังโป (Yarlung Tsangpo) ต้นกำเนิดของแม่น้ำพรหมบุตในอินเดีย จากค่อยๆไต่ระดับจนถึงช่องเขา Kamba-la pass (4,797m/15,820ft) ซึ่งเป็นจุดแรกที่มองเห็นสีเทอควอยซ์ของทะเลสาบยัมดร๊อก สามารถเห็นยอดเขา Mt.Nojin Kangtsang (7191m) จากนั้นเดินทางผ่านเมือง Nangkartse เมืองใหญ่เมืองเดียวในแถบทะเลสาบยัมดร๊อก จากนั้นไต่ระดับขึ้นไปอีกครั้งจนถึง Kharo-la pass (5,010m/16,500ft) ที่มีทัศนียภาพสวยแปลกตาของธารน้ำแข็ง Nojin Kangtsang & Kharo La Glacier จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองเจียนเซ่ (3,950m)
คืนนี้พักที่ เมืองเจียนเซ่ (Alt: 3,950m) Yeti Hotel Gyantse
หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เช็คเอ๊าท์ จากนั้นพาท่านเที่ยวภายในยังเมืองเจียนเซ่ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของลาซา ตอนเหนือของแม่น้ำ Ngang Chu ในศตวรรษที่ 15 เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเล็กๆแห่งหนึ่ง เมื่อครั้งอดีตเคยมีอารามถึง 15 อาราม ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย พาท่านเยี่ยมชม อารามเพลกอร์ (Pelkor Chode Monastery) อันมีสถูปคุมบุม (Kumbum) เป็นศาสนสถานสำคัญ
จากนั้นเดินทางต่อไปจนถึงเมืองซิกัตเซ่ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองบนความสูง 3,900 เมตร ระยะทาง 250กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ของลาซา ความสำคัญของเมืองนี้ในด้านศาสนา คือเป็นที่ประทับของปันเชนลามะ ซึ่งอยู่ในอารามทาชิลุนโป (Tashilhunpo Monastery) อารามแห่งสร้างในปี พ.ศ. 1990 โดย Genden Drup ดาไลลามะองค์แรก และยังเป็นหลานและศิษย์ของท่านซองขปะ ผู้นำนิกายเกลุก อารามแห่งนี้ภายหลังเป็นที่ประทับของปันเชนลามะ ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในนิกายเกลุกเป็นอันดับสองรองจากดะไลลามะ
คืนนี้พักที่เมืองชิกัตเซ่ (Alt: 3900m) Tashi Choeta Hotel Shigatse
หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เช็คเอ๊าท์ จากนั้นเดินทางกลับสู่กรุงลาซา
คืนนี้พักค้างคืนที่ลาซา (Alt: 3600m) The Tibet Gang-gyan Lhasa Hotel สี่ดาว หรือ เทียบเท่า
หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม และเช็คเอ๊าท์
ส่งท่านที่สนามบินกรุงลาซา สำหรับบินไปยังเมืองต่างๆของจีน หรือ กาฐมัณฑุ ประเทศเนปาล
หรือ ส่งท่านที่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางกลับด้วยรถไฟสายชิงไห่-ลาซา