Poon Hill ABC Trek จาก Hille 13 วัน
Poon Hill ABC Trek (ABC ย่อมาจาก Annapurna Base Camp) เป็นเทรคยอดนิยมอันดับต้นๆของเส้นทางเทรคหิมาลัยในเนปาล อยู่ในเขตอนุรักษ์เทือกเขาอันนาปูรณะ ไปทางตะวันออกของกาฐมาณฑุ จุดเริ่มและจุดสิ้นสุดของการเทรคเส้นนี้อยู่ในเมืองโพครา เส้นทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเทรค Annapurna Circuit
การเดินทางเทรคเส้นนี้ สามารถออกแบบได้หลากหลาย แต่ที่นิยมและเหมาะสมที่สุดจะเป็น Poon Hill ABC Trek จาก Ulleri 13 วัน โดยเริ่มจากบินไปลงเมืองโพครา แล้วต่อรถไปถึงหมู่บ้าน Hille แล้วเริ่มเดินจากจุดนั้น โปรแกรมนี้ออกแบบให้ไปยังพูนฮิล (Poon Hill) ความสูง 3210m จุดชมวิวยอดเขา Annapurna และ ยอดหางปลา มัชฉาปูชเร (Machhapuchhre) เมื่อจบการเทรคก็บินจากโพครากลับไปกาฐมาณฑุแล้วเที่ยวในกาฐมาณฑุก่อนบินกลับ ถือว่าเที่ยวครบทุกไฮไลท์บนเส้นทาง ABC
อ่านเพิ่มเติม โปรแกรมแบบอื่นๆสำหรับเส้นทาง Poon Hill ABC Trek
เส้นทางนี้ไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป และยังมีร้านค้า Tea house ให้บริการตลอดเส้นทาง จึงเหมาะกับนักเดินเขาทุกระดับ รวมไปถึงผู้ที่สนใจเริ่มเทรคบนที่สูงเกินกว่า 3,500 เมตรบนเทือกเขาหิมาลัย ตลอดเส้นทางมีธรรมชาติที่สวยงาม ผ่านทั้งน้ำตก แม่น้ำ ลำธาร หมู่บ้าน นาขั้นบันได ธารน้ำแข็ง น้ำพุร้อน และภูเขาหิมะ หากมาในช่วงเดือนเมษายนภูเขาจะเต็มไปด้วยดอกโรโดเดนดรอน โอบล้อมด้วยเทือกเขาอันนาปูรณะ ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเทรค
อ่านเพิ่มเติม Tea house ในเนปาล คืออะไร
เทือกเขาอันนาปูรณะ (Annapurna Massif) เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยด้านตะวันตก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศเนปาล เทือกเขานี้ประกอบด้วยยอดเขาสูงเกินกว่า 7,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถึง 6 ยอด ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ ยอดเขาอันนะปุรณะ 1 (Annapurna I) ยอดเขาสูงอันดับ 10 ของโลก หนึ่งใน 14 ยอดเขาที่สูงเกิน 8 พันเมตร คือมีความสูงถึง 8,091 เมตร
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อันนาปูรณะ (Annapurna)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์ Poon Hill ABC Trek จาก Hille + Kathmandu 13วัน
Day1 Bangkok – Kathmandu – Pokhara by flight
เดินทางถึงเมืองกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล เมื่อผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว ก็ออกมาพบเจ้าหน้าที่ที่มารอรับพาท่านที่ด้านนอกอาคาร ตรงประตูทางออก
จากนั้นพาท่านไปยังอาคารสนามบินในประเทศ เพื่อเดินทางสู่เมืองโพคราโดยทางเครื่องบิน เครื่องบินเป็นเครื่องบินใบพัดขนาด 30 ที่นั่ง มีแอร์โฮสเตสเดินแจกสำลีสำหรับอุดหู พร้อมกับลูกอม ถือเป็นความคลาสสิคของประเทศเนปาลที่ไม่ควรพลาด ใช้เวลาบิน 25 นาที
โพคราเป็นเมืองที่เป็นประตูสู่หิมาลัย เป็นจุดเริ่มต้นของการเทรคเทือกเขาอันนาปุระ เป็นเมืองที่สวยงาม อากาศอบอุ่นตลอดปี เมื่อถึงจุดหมาย
พาท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พักในเมืองโพครา จากนั้นอิสระเดินเล่นย่านช้อปปิ้งของเมืองโพครา และเดินเล่นรอบทะเลสาบเฟวา ท่านสามารถล่องเรือในทะเลสาบ (Phewa Lake) และแวะเที่ยววัดฮินดูที่อยู่บนเกาะกลางน้ำได้ (ค่าเรือไม่รวมในค่าทัวร์) โดยมีเทือกเขาอันนาปุรณะ และยอดเขาหางปลา หรือ มัชฉาปุชเร (Machhapuchhre) (6997m) เป็นฉากหลัง
ย่านช้อปปิ้งของเมืองโพครา มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี่ ผับ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึก และ ร้านขายอุปกรณ์เดินเทรค ท่านสามารถหาซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม และแลกเงินรูปีเนปาลเพิ่มเติมได้ที่ย่านนี้
คืนนีพักที่โรงแรมในเมืองโพครา
Day2 Pokhara - Nayapul (965m) – Hille 2½ hrs drive / Trek to Ulleri (1750m) 2 hrs trek
เช้า เช็คเอ๊าท์จากที่พัก เดินทางด้วยรถส่วนตัวไปจนถึง Hille ใช้เวลาเดินทาง 2½ ชั่วโมง เส้นทางจาก Nyapul ไปจะเริ่มคดเคี้ยวผ่านหมู่บ้าน ลำธาร จนไปถึง Hille
จากนั้นเริ่มต้นการเทรคจาก Hille ไปยัง Ulleri (ความสูง 1750m) ใช้เวลาเดิน 2 ชั่วโมง ถือเป็นการอุ่นเครื่องให้ร่างกายตื่นตัว คืนนี้พักที่ Ulleri ที่นี่จะะมองเห็นวิวยอดเขา Annapurna South (7219m.) และ Hiun Chuli (6441m.) ได้อย่างชัดเจน
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Ulleri (1750m)
Day3 Ulleri (1750m) - Ghorepani (2750m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ แล้วเริ่มเดินต่อ จุดหมายปลายทางวันนี้คือที่ Ghorepani (ความสูง 2750m) ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง เส้นทางเดินจะเป็นทางขึ้นเขาไปเรื่อยๆสบายๆขึ้นสู่ดงป่ากุหลาบพันปี หรือ โรโดรเดรนดรอน ซึ่งจะบานสะพรั่งช่วงกลางเดือนเมษายน
ที่หมู่บ้าน Ghorepani เราจะได้สบตากับ ยอดมัชฉาปูเชเร หรือ ยอดหางปลา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่สถิตขององค์เทวีอันนาปูรณะ 1 ใน 9 ปางของพระอุมาเทวี ชายาของพระศิวะ และเพลิดเพลินกับอีกหลายยอดเขาที่มีความสูงติด 1 ใน 10 ของโลก ที่พักอยู่ในมุมสูงของหมู่บ้านที่เป็นทางขึ้นสู่ Poon Hill
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Ghorepani (2750m)
Day4 Ghorepani (2750m) – Poonhill (3210m) – Tandapani (2590m)
ตื่นตอนตีสาม จากนั้นตีสี่ครึ่งพาท่านเดินขึ้นเขาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดพูนฮิลล์ (ความสูง 3210m) ที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในจุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัยที่สวยที่สุดในโลก
บนนี้จะสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัย Annapurna และDhaulagiri เป็นแนวยาวแบบพาโนราม่า ไล่มาตั้งแต่ Machhapuchhre, Hiun Chuli, Annapurna South, Baraha Shikhar, Annapurna I (สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก), Nilgiri, Tukuche และ Dhaulagiri (อันดับ 7 ของโลก)
ใช้เวลาเดินจากที่พักถึงยอดพูนฮิลด์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง โปรดเตรียมไฟฉายคาดหัว เสื้อและอุปกรณ์กันหนาว ขนมที่ให้พลังงาน อุณหภูมิช่วงเช้าจะอยู่ราวๆ 0-5องศาเซลเซียส บนยอดเขามีลมแรง
จากนั้นลงมารับประทานอาหารเช้าที่ Tea House (ไม่รวมในค่าทัวร์) จากนั้นเช็คเอ๊าท์ เดินทางต่อ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ Tandapani (ความสูง 2590m) ใช้เวลาเดินประมาณ 4-5 ชั่วโมง
เส้นทางจะขึ้นเขาลงเขาสลับกันไปเรื่อยๆจนถึงหมู่บ้าน Tandapani ที่นี่มีเครื่องประดับจากหินพวกสร้อย กำไลวางขายให้ซื้อหาด้วย ที่นี่จะสามารถมองเห็น ยอดเขา Annapurna South และ Machhapuchhre ได้ใกล้มาก
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Tandapani (2590m)
Day5 Tandapani (2590m) – Chhomrong (2340m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ เดินทางต่อไปยังจุดหมายที่ Chhomrong (ความสูง 2340m) ซึ่งเป็นประตูสู่ ABC หรือ Annapurna Base Camp ใช้ระยะเวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง
เส้นทางวันนี้ช่วงเช้าจะเดินลงเรื่อยๆจนถึงแม่น้ำ Kimrong Khola เมื่อข้ามแม่น้ำก็กลับไปเป็นทางขึ้น แต่เดินสบายๆไม่ขึ้นชันมากมายนัก ช่วงบ่ายก็จะถึง Chomrong ทางขึ้นจะเป็นทางบันไดขึ้นยาวมาก ที่นี่จะเห็น Annapurna South, Hiun Chuli และ Machhapuchhreได้ชัดเจน
ตั้งแต่ Chomrong ขึ้นไปจะไม่มีน้ำเปล่าหรือพวกน้ำแร่ใส่ขวดพลาสติกขายแล้ว เพราะเป็นเขตห้ามใช้ขวดพลาสติก ดังนั้นควรจะมีกระบอกน้ำไว้ใส่น้ำต้มแทน แต่พวก Coke กระป๋องก็ยังมีขายอยู่ไปเรื่อยๆจนถึง ABC
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Chomrong (2340m)
Day6 Chhomrong (2340m) – Doban (2505m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ ออกเดินทางไปยัง Doban (ความสูง 2505m) ใช้เวลา 7 ชั่วโมง
วันนี้จะเดินกันไกลพอสมควร ออกจาก Chomrong ก็ลงเขาเพื่อข้ามแม่น้ำ สักพักใหญ่ก็มาถึงหมู่บ้าน Sinuwa วิวยอดเขาหางปลาสูงเด่น มองเห็นเป็นหางปลาชัดเจนมาก ช่วงนี้ไปแดดจะแรง ให้มีอุปกรณ์กันแดดติดมาด้วย ทางเดินหลังจากหมู่บ้าน Sinuwa ไม่ได้ลำบากมากนัก ค่อยๆขึ้นไปเรื่อยๆ แวะพักทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้าน Bamboo หลังจากนั้นก็ก็เดินสู่หมู่บ้าน Doban
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Doban (2505m)
Day7 Doban (2505m) – Deurali (3100m) – ABC (4130m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ ออกเดินทางไปยัง Deurali (ความสูง 3100m) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จาก Deurali ทางจะไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง Annapurna Base Camp (ความสูง 4130m) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง วันนี้รวมเดินทั้งสิ้นประมาณ 7 ชั่วโมง
เส้นทางวันนี้แม้จะไม่ยาวไกลและยากลำบากมากนัก แต่เส้นทางบางช่วงอาจจะมีหินร่วงหรือหิมะถล่มลงมาได้ จึงควรออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปให้ถึงมัจฉาปูชเรเบสแค้มป์ เพราะถ้ามีฝนตกหรือพายุหิมะในช่วงบ่ายจะทำให้เดินลำบากและเป็นอันตรายได้
หลังจากเดินทางออกจาก Doban มาได้สักชั่วโมงกว่าๆ ก็จะมาถึง Deurali ที่ระดับความสูงประมาณ 3,230 เมตร เมื่อเลย Deurali มาได้เล็กน้อย เส้นทางและวิวสวยงามก็ปรากฎขึ้น เห็นแนวเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวเป็นแนวยาว
เส้นทางบางช่วงก็ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของทางเดินจะเป็นหน้าผาสูงชันมีน้ำตกที่ตกเป็นน้ำแข็งอยู่หลายจุด ยิ่งเข้าใกล้ tea house ณ จุด มัชฉาปูชเรเบสแค้มป์ (MBC) ตรงนี้จะเห็นยอดเขามัจฉาปูชเรเป็นยอดแหลมสวยงาม นอกจากนั้นก็ยังจะเห็นยอดเขา Gangapurna และ Tent Peak อยู่ทางด้านเหนือของมัจฉาปูชเรเบสแค้มป์
ช่วงบ่ายก็จะเดินถึงเบสแค้มป์ (MBC) ยอดเขา Annapurna South สูงเด่นสวยงามอยู่ด้านหลัง ABC รวมไปถึงยอดเขา Baraha Shikhar และ Annapurna I ที่สูงเป็นลำดับที่ 10 ของโลกก็ออกมาต้อนรับ
วิวที่ MBC นี้นับว่า งดงามไม่เป็นรองวิวที่ ABC การนั่งจิบชาในอ้อมกอดของมัชฉาปูเชเรบนที่สูงแห่งนี้ นับเป็นชาที่เลิศรสที่สุด
จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่ ABC เส้นทางราวกับมีใครปูพรมสีขาวของหิมะให้ก้าวย่าง โดยมีเทือกเขา Annapurna South รอเราอยู่เบื้องหน้า และ Machhapuchhre คอยเฝ้ามองอยู่เบื้องหลัง
ภาพข้างหน้าคืออ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัยรอบด้าน 360 องศา ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ Annapurna South (7219m.), Baraha Shikhar (7647m.), Annapurna I (8091m.), Roc Noir (7485m.), Glacier Dome (7069m.), Fluted Peak (6501m.), Tent Peak (5695m.), Annapurna III (7855m.), Gandharba Chuli (6248m.), Machhapuchhre (6997m.) และปิดท้ายที่ Hiun Chuli (6441m.) ช่างเป็นภาพที่งดงามจับตาเป็นอย่างมาก
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Annapurna Base Camp (ABC)
Day8 ABC (4130m) – Bamboo (2335m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ วันนี้เดินลงจาก Annapurna Base Camp ไปยัง Bamboo (ความสูง 2335m) ใช้ระยะเวลาประมาณ 7ชั่วโมงโดยย้อนกลับทางเดิมผ่าน MBC, Deurali และสิ้นสุดของวันนี้ที่หมู่บ้าน Bamboo จากวันนี้ไปแล้วก็ยังคงใช้เส้นทางเดิม แต่เดินสบายๆเพราะลงเขาเป็นส่วนใหญ่
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Bamboo (2335m)
Day9 Bamboo (2335m) – Jhinidanda (1610m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ เดินลงเขาไปยังปลายทางที่ Jhinidanda (ความสูง 1610m) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Jhinidanda (1610m)
Day10 Jhinidanda (1610m) – Jhinu Hot Spring - Nayapul (965m) - Pokhara
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินเทรค ระหว่างวันเราจะเดินไปแช่น้ำพุร้อนที่ Jhinu Hot Spring ก่อนจะเดินลงกลับไปยัง Nayapul หรือ New Bridge (ความสูง 965m) ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
เมื่อถึง Nayapul ก็พบกับรถส่วนตัวที่มารอรับ พาท่านเข้าเมืองโพคราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30นาที ถึงโพครา เช็คอินเข้าสู่ที่พัก
คืนนี้พักที่ โรงแรมในเมืองโพครา
Day11 Pokhara – Kathmandu by flight – Kathmandu sightseeing
ตื่นแต่เช้าตรู่ พาท่านชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาซรังกอต ซึ่งเป็นจุดชมวิวเทือกเขาอันนาปุรณะที่สวยที่สุดในโพครา จากนั้นกลับเข้าโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า จากนั้นเช็คเอ๊าท์ และพาท่านเดินทางกลับสู่กรุงกาฐมาณฑุ โดยทางเครื่องบิน ใช้เวลาบิน 25 นาที
เมื่อถึงเมืองกาฐมาณฑุ เจ้าหน้าที่มารอรับพาท่านเดินทางสู่ย่านทาเมล เช็คอินเข้าโรงแรมที่พัก
พาท่านเที่ยวเจดีย์โพธินาถ หรือ โบะนาท (Bodhnath) ชมสถูปหรือเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในกลางนครกาฐมาณฑุ วัดแห่งนี้เป็นชุมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล และเป็นศูนย์กลางศาสนาแห่งทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ท่านจะยังคงได้เห็น พุทธศาสนิกชนชาวทิเบต และชาวเนปาลมาสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลยังสถานที่แห่งนี้ บ้างก็ทำทักษิณาวัตรรอบเจดีย์ บ้างก็หมุนกงล้อภาวนา (Prayer Wheel) ที่มีอักษร โอม มณี ปัตเม หุม กำกับ บ้างก็ก้มลงกราบแบบอัษฏางคประดิษฐ์ หรือกราบร่างกายแปดส่วนจรดพื้น
จากนั้นนำท่านเข้าชมวัดสวยมภูนารถ (Swyambhunath) หรือมีอีกที่หนึ่งว่าวัดลิง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระธรรมในพุทธศาสนา ตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศตะวันตกของเมือง
จากข้อความจารึกไว้ว่า พระเจ้ามานะเทวะทรงมีพระบรมราชองค์การ ให้สร้างวัดนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 460 ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ที่นี่คือจุดกำเนิดของกาฐมาณฑุ ที่วัดนี้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ไม่มาก เจดีย์และเทวรูปต่างๆยังคงสภาพดีอยู่มาก
จากนั้นเดินทางกลับสู่โรงแรม
คืนนี้พักที่ โรงแรมในย่านทาเมล กาฐมาณฑุ
Day12 Kathmandu Sightseeing
หลังอาหารเช้า พาท่านเที่ยวชมนำท่านเข้าชม Kathmandu Durbar Square เขตเมืองเก่านครกาฐมาณฑุ ที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในราชวงศ์ลิจฉวี ซึ่งขึ้นครองบัลลังก์ในปี ค.ศ. 300 ที่นี่เป็นศูนย์กลางของนครกาฐมาณฑุโบราณ ที่ตั้งตาม “กาษฐมณฑป” หรือ “เรือนไม้” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง
อาคารไม้นี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 บนจุดที่เส้นทางการค้าสำคัญสองเส้นตัดกัน และใช้เป็นศูนย์กลางของชุมชนในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย การพัฒาของตัวเมืองเกิดขึ้นในรัศมีรอบๆ พระราชวังเก่า และจัตตุรัสเดอร์บา (Durbar Square) ได้รับการสร้างขึ้นหลังจากกาษฐมณฑปไม่นาน
ชมเจดีย์และวัดฮินดู รวมถึงพื้นที่เขตพระราชวังเก่า นำท่านเข้าชม ตำหนักกุมารี บาฮาล (Kumari Bahal) หรือที่พำนักเทพธิดาที่มีชีวิต (Living Goddess) ชาวเนปาลเชื่อกันว่ากุมารีคืออวตารของเทพธิดาพรมจรรย์ มีข้อห้ามว่าห้ามถ่ายรูปกุมารีเด็ดขาด
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วัดตะเลจู (Teleju Tempel) สร้างอุทิศให้กับองค์สำคัญประจำราชวงศ์คือ เทวีตะเลจูบะวานี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไม่เปิดให้ผู้ใดเยี่ยมกราย นอกจากองค์กษัตริย์และนักบวชที่มีสมณศักดิ์สูง ชาวฮินดูสามารถเข้าทำพิธีได้ปีละหนึ่งครั้งในช่วงดุรกาปูจา (Durga Puja) ระหว่างเทศกาลดาเซยน์ (Dasain)
เยี่ยมชม ประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka) ประตูที่เป็นที่ตั้งของพระองค์เทพหนุมาน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1672 ตัวเทพได้รับการเจิมชาดเสียจนเป็นสีแดงเข้มใต้ร่มฉัตร ที่นี่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวหลายจุด เจดีย์และศาสนวัตถุบางแห่ง เสียหายทั้งหมด ปัจจุบันทางการร่วมกับยูเนสโกทำการบูรณะครั้งใหญ่อยู่
จากนั้นพาท่านเที่ยวชมปศุปฏินารถ (Pashupatinath) ที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าภูบาลสิงห์แห่งราชวงศ์มัลละ ในปี ค.ศ.1696 เพื่อถวายองค์พระศิวะ ในภาคองค์ปศุปติ หรือ เจ้าแห่งเวไนยสัตว์ และที่สำคัญคือ วัดปศุปตินาถได้ถูกจัดให้เป็นมรดกโลก
วัดนี้มีสัญลักษณ์ของเทพเจ้า“ตรีมูรติ” อยู่มากมาย ซึ่งหมายถึงพระพรหมเป็นผู้สร้าง พระวิษณุหรือพระนารายณ์เป็นผู้รักษา และพระศิวะเป็นผู้ทำลาย โดยเฉพาะศิวลึงค์ เป็นเครื่องหมายบุรุษเพศ สัญลักษณ์ของพระศิวะจะพบเห็นมากที่สุด เป็นวัดฮินดูที่สำคัญมากที่สุดในเนปาลตั้งอยู่ริมแม่น้ำภัคมาติ
ท่านมีโอกาสเห็นพิธีกรรมการเผาศพตามแบบศาสนาฮินดู โดยจะนำศพที่ห่อผ้ามาวางบนเชิงตะกอน เมื่อเผาจนเป็นขี้เถ้า ก็จะกวาดขี้เถ้านั้นลงสู่แม่น้ำ
บ่ายพาท่านกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน และให้อิสระท่านช้อปปิ้งของฝากย่านทาเมล แหล่งช้อปปิ้งของฝาก อุปกรณ์เดินป่า อุปกรณ์ปีนเขา
คืนนี้พักที่ โรงแรมในย่านทาเมล กาฐมาณฑุ
Day13 เดินทางออกจากกาฐมาณฑุ Depart Kathmandu
หลังอาหารเช้า เช็คเอ๊าท์ พาท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติเมืองกาฐมาณฑุเพื่อบินกลับเมืองไทย
เดินทางถึงเมืองกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล เมื่อผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว ก็ออกมาพบเจ้าหน้าที่ที่มารอรับพาท่านที่ด้านนอกอาคาร ตรงประตูทางออก
จากนั้นพาท่านไปยังอาคารสนามบินในประเทศ เพื่อเดินทางสู่เมืองโพคราโดยทางเครื่องบิน เครื่องบินเป็นเครื่องบินใบพัดขนาด 30 ที่นั่ง มีแอร์โฮสเตสเดินแจกสำลีสำหรับอุดหู พร้อมกับลูกอม ถือเป็นความคลาสสิคของประเทศเนปาลที่ไม่ควรพลาด ใช้เวลาบิน 25 นาที
โพคราเป็นเมืองที่เป็นประตูสู่หิมาลัย เป็นจุดเริ่มต้นของการเทรคเทือกเขาอันนาปุระ เป็นเมืองที่สวยงาม อากาศอบอุ่นตลอดปี เมื่อถึงจุดหมาย
พาท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พักในเมืองโพครา จากนั้นอิสระเดินเล่นย่านช้อปปิ้งของเมืองโพครา และเดินเล่นรอบทะเลสาบเฟวา ท่านสามารถล่องเรือในทะเลสาบ (Phewa Lake) และแวะเที่ยววัดฮินดูที่อยู่บนเกาะกลางน้ำได้ (ค่าเรือไม่รวมในค่าทัวร์) โดยมีเทือกเขาอันนาปุรณะ และยอดเขาหางปลา หรือ มัชฉาปุชเร (Machhapuchhre) (6997m) เป็นฉากหลัง
ย่านช้อปปิ้งของเมืองโพครา มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอรี่ ผับ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึก และ ร้านขายอุปกรณ์เดินเทรค ท่านสามารถหาซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม และแลกเงินรูปีเนปาลเพิ่มเติมได้ที่ย่านนี้
คืนนีพักที่โรงแรมในเมืองโพครา
เช้า เช็คเอ๊าท์จากที่พัก เดินทางด้วยรถส่วนตัวไปจนถึง Hille ใช้เวลาเดินทาง 2½ ชั่วโมง เส้นทางจาก Nyapul ไปจะเริ่มคดเคี้ยวผ่านหมู่บ้าน ลำธาร จนไปถึง Hille
จากนั้นเริ่มต้นการเทรคจาก Hille ไปยัง Ulleri (ความสูง 1750m) ใช้เวลาเดิน 2 ชั่วโมง ถือเป็นการอุ่นเครื่องให้ร่างกายตื่นตัว คืนนี้พักที่ Ulleri ที่นี่จะะมองเห็นวิวยอดเขา Annapurna South (7219m.) และ Hiun Chuli (6441m.) ได้อย่างชัดเจน
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Ulleri (1750m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ แล้วเริ่มเดินต่อ จุดหมายปลายทางวันนี้คือที่ Ghorepani (ความสูง 2750m) ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง เส้นทางเดินจะเป็นทางขึ้นเขาไปเรื่อยๆสบายๆขึ้นสู่ดงป่ากุหลาบพันปี หรือ โรโดรเดรนดรอน ซึ่งจะบานสะพรั่งช่วงกลางเดือนเมษายน
ที่หมู่บ้าน Ghorepani เราจะได้สบตากับ ยอดมัชฉาปูเชเร หรือ ยอดหางปลา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่สถิตขององค์เทวีอันนาปูรณะ 1 ใน 9 ปางของพระอุมาเทวี ชายาของพระศิวะ และเพลิดเพลินกับอีกหลายยอดเขาที่มีความสูงติด 1 ใน 10 ของโลก ที่พักอยู่ในมุมสูงของหมู่บ้านที่เป็นทางขึ้นสู่ Poon Hill
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Ghorepani (2750m)
ตื่นตอนตีสาม จากนั้นตีสี่ครึ่งพาท่านเดินขึ้นเขาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดพูนฮิลล์ (ความสูง 3210m) ที่ได้ชื่อว่าหนึ่งในจุดชมวิวเทือกเขาหิมาลัยที่สวยที่สุดในโลก
บนนี้จะสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัย Annapurna และDhaulagiri เป็นแนวยาวแบบพาโนราม่า ไล่มาตั้งแต่ Machhapuchhre, Hiun Chuli, Annapurna South, Baraha Shikhar, Annapurna I (สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก), Nilgiri, Tukuche และ Dhaulagiri (อันดับ 7 ของโลก)
ใช้เวลาเดินจากที่พักถึงยอดพูนฮิลด์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง โปรดเตรียมไฟฉายคาดหัว เสื้อและอุปกรณ์กันหนาว ขนมที่ให้พลังงาน อุณหภูมิช่วงเช้าจะอยู่ราวๆ 0-5องศาเซลเซียส บนยอดเขามีลมแรง
จากนั้นลงมารับประทานอาหารเช้าที่ Tea House (ไม่รวมในค่าทัวร์) จากนั้นเช็คเอ๊าท์ เดินทางต่อ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ Tandapani (ความสูง 2590m) ใช้เวลาเดินประมาณ 4-5 ชั่วโมง
เส้นทางจะขึ้นเขาลงเขาสลับกันไปเรื่อยๆจนถึงหมู่บ้าน Tandapani ที่นี่มีเครื่องประดับจากหินพวกสร้อย กำไลวางขายให้ซื้อหาด้วย ที่นี่จะสามารถมองเห็น ยอดเขา Annapurna South และ Machhapuchhre ได้ใกล้มาก
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Tandapani (2590m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ เดินทางต่อไปยังจุดหมายที่ Chhomrong (ความสูง 2340m) ซึ่งเป็นประตูสู่ ABC หรือ Annapurna Base Camp ใช้ระยะเวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง
เส้นทางวันนี้ช่วงเช้าจะเดินลงเรื่อยๆจนถึงแม่น้ำ Kimrong Khola เมื่อข้ามแม่น้ำก็กลับไปเป็นทางขึ้น แต่เดินสบายๆไม่ขึ้นชันมากมายนัก ช่วงบ่ายก็จะถึง Chomrong ทางขึ้นจะเป็นทางบันไดขึ้นยาวมาก ที่นี่จะเห็น Annapurna South, Hiun Chuli และ Machhapuchhreได้ชัดเจน
ตั้งแต่ Chomrong ขึ้นไปจะไม่มีน้ำเปล่าหรือพวกน้ำแร่ใส่ขวดพลาสติกขายแล้ว เพราะเป็นเขตห้ามใช้ขวดพลาสติก ดังนั้นควรจะมีกระบอกน้ำไว้ใส่น้ำต้มแทน แต่พวก Coke กระป๋องก็ยังมีขายอยู่ไปเรื่อยๆจนถึง ABC
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Chomrong (2340m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ ออกเดินทางไปยัง Doban (ความสูง 2505m) ใช้เวลา 7 ชั่วโมง
วันนี้จะเดินกันไกลพอสมควร ออกจาก Chomrong ก็ลงเขาเพื่อข้ามแม่น้ำ สักพักใหญ่ก็มาถึงหมู่บ้าน Sinuwa วิวยอดเขาหางปลาสูงเด่น มองเห็นเป็นหางปลาชัดเจนมาก ช่วงนี้ไปแดดจะแรง ให้มีอุปกรณ์กันแดดติดมาด้วย ทางเดินหลังจากหมู่บ้าน Sinuwa ไม่ได้ลำบากมากนัก ค่อยๆขึ้นไปเรื่อยๆ แวะพักทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้าน Bamboo หลังจากนั้นก็ก็เดินสู่หมู่บ้าน Doban
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Doban (2505m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ ออกเดินทางไปยัง Deurali (ความสูง 3100m) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จาก Deurali ทางจะไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง Annapurna Base Camp (ความสูง 4130m) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง วันนี้รวมเดินทั้งสิ้นประมาณ 7 ชั่วโมง
เส้นทางวันนี้แม้จะไม่ยาวไกลและยากลำบากมากนัก แต่เส้นทางบางช่วงอาจจะมีหินร่วงหรือหิมะถล่มลงมาได้ จึงควรออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปให้ถึงมัจฉาปูชเรเบสแค้มป์ เพราะถ้ามีฝนตกหรือพายุหิมะในช่วงบ่ายจะทำให้เดินลำบากและเป็นอันตรายได้
หลังจากเดินทางออกจาก Doban มาได้สักชั่วโมงกว่าๆ ก็จะมาถึง Deurali ที่ระดับความสูงประมาณ 3,230 เมตร เมื่อเลย Deurali มาได้เล็กน้อย เส้นทางและวิวสวยงามก็ปรากฎขึ้น เห็นแนวเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวเป็นแนวยาว
เส้นทางบางช่วงก็ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของทางเดินจะเป็นหน้าผาสูงชันมีน้ำตกที่ตกเป็นน้ำแข็งอยู่หลายจุด ยิ่งเข้าใกล้ tea house ณ จุด มัชฉาปูชเรเบสแค้มป์ (MBC) ตรงนี้จะเห็นยอดเขามัจฉาปูชเรเป็นยอดแหลมสวยงาม นอกจากนั้นก็ยังจะเห็นยอดเขา Gangapurna และ Tent Peak อยู่ทางด้านเหนือของมัจฉาปูชเรเบสแค้มป์
ช่วงบ่ายก็จะเดินถึงเบสแค้มป์ (MBC) ยอดเขา Annapurna South สูงเด่นสวยงามอยู่ด้านหลัง ABC รวมไปถึงยอดเขา Baraha Shikhar และ Annapurna I ที่สูงเป็นลำดับที่ 10 ของโลกก็ออกมาต้อนรับ
วิวที่ MBC นี้นับว่า งดงามไม่เป็นรองวิวที่ ABC การนั่งจิบชาในอ้อมกอดของมัชฉาปูเชเรบนที่สูงแห่งนี้ นับเป็นชาที่เลิศรสที่สุด
จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่ ABC เส้นทางราวกับมีใครปูพรมสีขาวของหิมะให้ก้าวย่าง โดยมีเทือกเขา Annapurna South รอเราอยู่เบื้องหน้า และ Machhapuchhre คอยเฝ้ามองอยู่เบื้องหลัง
ภาพข้างหน้าคืออ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัยรอบด้าน 360 องศา ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ Annapurna South (7219m.), Baraha Shikhar (7647m.), Annapurna I (8091m.), Roc Noir (7485m.), Glacier Dome (7069m.), Fluted Peak (6501m.), Tent Peak (5695m.), Annapurna III (7855m.), Gandharba Chuli (6248m.), Machhapuchhre (6997m.) และปิดท้ายที่ Hiun Chuli (6441m.) ช่างเป็นภาพที่งดงามจับตาเป็นอย่างมาก
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Annapurna Base Camp (ABC)
เช้า เช็คเอ๊าท์ วันนี้เดินลงจาก Annapurna Base Camp ไปยัง Bamboo (ความสูง 2335m) ใช้ระยะเวลาประมาณ 7ชั่วโมงโดยย้อนกลับทางเดิมผ่าน MBC, Deurali และสิ้นสุดของวันนี้ที่หมู่บ้าน Bamboo จากวันนี้ไปแล้วก็ยังคงใช้เส้นทางเดิม แต่เดินสบายๆเพราะลงเขาเป็นส่วนใหญ่
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Bamboo (2335m)
เช้า เช็คเอ๊าท์ เดินลงเขาไปยังปลายทางที่ Jhinidanda (ความสูง 1610m) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
คืนนี้พักที่ Tea House ที่ Jhinidanda (1610m)
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินเทรค ระหว่างวันเราจะเดินไปแช่น้ำพุร้อนที่ Jhinu Hot Spring ก่อนจะเดินลงกลับไปยัง Nayapul หรือ New Bridge (ความสูง 965m) ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
เมื่อถึง Nayapul ก็พบกับรถส่วนตัวที่มารอรับ พาท่านเข้าเมืองโพคราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30นาที ถึงโพครา เช็คอินเข้าสู่ที่พัก
คืนนี้พักที่ โรงแรมในเมืองโพครา
ตื่นแต่เช้าตรู่ พาท่านชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาซรังกอต ซึ่งเป็นจุดชมวิวเทือกเขาอันนาปุรณะที่สวยที่สุดในโพครา จากนั้นกลับเข้าโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า จากนั้นเช็คเอ๊าท์ และพาท่านเดินทางกลับสู่กรุงกาฐมาณฑุ โดยทางเครื่องบิน ใช้เวลาบิน 25 นาที
เมื่อถึงเมืองกาฐมาณฑุ เจ้าหน้าที่มารอรับพาท่านเดินทางสู่ย่านทาเมล เช็คอินเข้าโรงแรมที่พัก
พาท่านเที่ยวเจดีย์โพธินาถ หรือ โบะนาท (Bodhnath) ชมสถูปหรือเจดีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในกลางนครกาฐมาณฑุ วัดแห่งนี้เป็นชุมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล และเป็นศูนย์กลางศาสนาแห่งทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ท่านจะยังคงได้เห็น พุทธศาสนิกชนชาวทิเบต และชาวเนปาลมาสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลยังสถานที่แห่งนี้ บ้างก็ทำทักษิณาวัตรรอบเจดีย์ บ้างก็หมุนกงล้อภาวนา (Prayer Wheel) ที่มีอักษร โอม มณี ปัตเม หุม กำกับ บ้างก็ก้มลงกราบแบบอัษฏางคประดิษฐ์ หรือกราบร่างกายแปดส่วนจรดพื้น
จากนั้นนำท่านเข้าชมวัดสวยมภูนารถ (Swyambhunath) หรือมีอีกที่หนึ่งว่าวัดลิง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระธรรมในพุทธศาสนา ตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศตะวันตกของเมือง
จากข้อความจารึกไว้ว่า พระเจ้ามานะเทวะทรงมีพระบรมราชองค์การ ให้สร้างวัดนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 460 ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ที่นี่คือจุดกำเนิดของกาฐมาณฑุ ที่วัดนี้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ไม่มาก เจดีย์และเทวรูปต่างๆยังคงสภาพดีอยู่มาก
จากนั้นเดินทางกลับสู่โรงแรม
คืนนี้พักที่ โรงแรมในย่านทาเมล กาฐมาณฑุ
หลังอาหารเช้า พาท่านเที่ยวชมนำท่านเข้าชม Kathmandu Durbar Square เขตเมืองเก่านครกาฐมาณฑุ ที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในราชวงศ์ลิจฉวี ซึ่งขึ้นครองบัลลังก์ในปี ค.ศ. 300 ที่นี่เป็นศูนย์กลางของนครกาฐมาณฑุโบราณ ที่ตั้งตาม “กาษฐมณฑป” หรือ “เรือนไม้” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง
อาคารไม้นี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 บนจุดที่เส้นทางการค้าสำคัญสองเส้นตัดกัน และใช้เป็นศูนย์กลางของชุมชนในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย การพัฒาของตัวเมืองเกิดขึ้นในรัศมีรอบๆ พระราชวังเก่า และจัตตุรัสเดอร์บา (Durbar Square) ได้รับการสร้างขึ้นหลังจากกาษฐมณฑปไม่นาน
ชมเจดีย์และวัดฮินดู รวมถึงพื้นที่เขตพระราชวังเก่า นำท่านเข้าชม ตำหนักกุมารี บาฮาล (Kumari Bahal) หรือที่พำนักเทพธิดาที่มีชีวิต (Living Goddess) ชาวเนปาลเชื่อกันว่ากุมารีคืออวตารของเทพธิดาพรมจรรย์ มีข้อห้ามว่าห้ามถ่ายรูปกุมารีเด็ดขาด
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วัดตะเลจู (Teleju Tempel) สร้างอุทิศให้กับองค์สำคัญประจำราชวงศ์คือ เทวีตะเลจูบะวานี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไม่เปิดให้ผู้ใดเยี่ยมกราย นอกจากองค์กษัตริย์และนักบวชที่มีสมณศักดิ์สูง ชาวฮินดูสามารถเข้าทำพิธีได้ปีละหนึ่งครั้งในช่วงดุรกาปูจา (Durga Puja) ระหว่างเทศกาลดาเซยน์ (Dasain)
เยี่ยมชม ประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka) ประตูที่เป็นที่ตั้งของพระองค์เทพหนุมาน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1672 ตัวเทพได้รับการเจิมชาดเสียจนเป็นสีแดงเข้มใต้ร่มฉัตร ที่นี่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวหลายจุด เจดีย์และศาสนวัตถุบางแห่ง เสียหายทั้งหมด ปัจจุบันทางการร่วมกับยูเนสโกทำการบูรณะครั้งใหญ่อยู่
จากนั้นพาท่านเที่ยวชมปศุปฏินารถ (Pashupatinath) ที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าภูบาลสิงห์แห่งราชวงศ์มัลละ ในปี ค.ศ.1696 เพื่อถวายองค์พระศิวะ ในภาคองค์ปศุปติ หรือ เจ้าแห่งเวไนยสัตว์ และที่สำคัญคือ วัดปศุปตินาถได้ถูกจัดให้เป็นมรดกโลก
วัดนี้มีสัญลักษณ์ของเทพเจ้า“ตรีมูรติ” อยู่มากมาย ซึ่งหมายถึงพระพรหมเป็นผู้สร้าง พระวิษณุหรือพระนารายณ์เป็นผู้รักษา และพระศิวะเป็นผู้ทำลาย โดยเฉพาะศิวลึงค์ เป็นเครื่องหมายบุรุษเพศ สัญลักษณ์ของพระศิวะจะพบเห็นมากที่สุด เป็นวัดฮินดูที่สำคัญมากที่สุดในเนปาลตั้งอยู่ริมแม่น้ำภัคมาติ
ท่านมีโอกาสเห็นพิธีกรรมการเผาศพตามแบบศาสนาฮินดู โดยจะนำศพที่ห่อผ้ามาวางบนเชิงตะกอน เมื่อเผาจนเป็นขี้เถ้า ก็จะกวาดขี้เถ้านั้นลงสู่แม่น้ำ
บ่ายพาท่านกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน และให้อิสระท่านช้อปปิ้งของฝากย่านทาเมล แหล่งช้อปปิ้งของฝาก อุปกรณ์เดินป่า อุปกรณ์ปีนเขา
คืนนี้พักที่ โรงแรมในย่านทาเมล กาฐมาณฑุ
หลังอาหารเช้า เช็คเอ๊าท์ พาท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติเมืองกาฐมาณฑุเพื่อบินกลับเมืองไทย