การเดินทางเข้าภูฏาน วิธีการเดินทางเข้าภูฏาน การเข้าภูฏาน
วิธีการเดินทางเข้าภูฏาน
เนื่องจากภูฏานเป็นประเทศที่ไม่มีพรมแดนติดทะเล การเดินทางเข้าภูฏาน จึงเปิดให้เข้า-ออกได้เพียงสองทาง คือ ทางบก และ ทางอากาศ
สารบัญ
1.3. เอกสารที่ใช้เมื่อเดินทางเข้าภูฏานทางบก
2.3. เอกสารที่ใช้เมื่อเดินทางเข้าภูฏานทางอากาศ
1. การเดินทางเข้าภูฏาน ทางบก
ภูฏานมีพรมแดนติดกับประเทศอินเดีย และจีน (ทิเบต) ปัจจุบันพรมแดนที่ติดกับจีนปิด ไม่อนุญาตให้ผ่าน
จะเปิดแต่เพียงพรมแดนฝั่งที่ติดกับประเทศอินเดีย มีอยู่ทั้งหมด 2 ด่าน คือ ด่านชายแดนเมืองพุนโชลิง ทางภาคใต้ และ ด่านชายแดนเมืองซัมดรุปจงคา ทางภาคตะวันออก
กลับสู่สารบัญ1.1. ด่านพุนโชลิง
ด่านชายแดนเมืองพุนโชลิง อยู่ทางภาคใต้ของภูฏาน อยู่ห่างจากเมืองพาโรหรือทิมพูราว 7 ชั่วโมง เป็นจุดที่ติดกับอินเดียที่รัฐเบงกอล เมือง Jaigon
สนามบินที่ใกล้เมืองพุนโชลิงที่สุด คือ สนามบินบักโดรกา เมืองสิริกูรี รัฐเบงกอล ประเทศอินเดีย โดยอยู่ห่างราว 3 ชั่วโมง ทางรถ
วิธีที่สะดวกที่สุดคือ ให้บินไปลงที่สนามบินบักโดรกา เมืองสิริกูรี แล้วให้เจ้าหน้าที่ทัวร์มารับ ระยะทางจากสนามบินบักโดรกาไปยังเมืองพุนโชลิง ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงครึ่ง
หากสนใจเข้าภูฏานที่จุดนี้ ทาง Global Tour Planner ขอเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบสองประเทศ อินเดีย-ภูฏาน โดยบินลงที่สนามบินบักโดรกา แล้วเที่ยวในรัฐสิกขิม + ดาร์จีลิ่ง แล้วเดินทางเข้าภูฏานทางด่านพุนโชลิงเพื่อเที่ยวภูฏานต่อ ขาออกสามารถเลือกบินออกจากภูฏานที่เมืองพาโร หรือ นั่งรถกลับมาที่สนามบินบักโดรกาของอินเดียก็ได้
ข้อจำกัด ไม่แนะนำให้เดินทางเส้นนี้ในช่วงที่มีฝนตกชุก ระหว่างเดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน เพราะเส้นทางจากพุนโชลิงไปยังพาโร มักเจอปัญหาดินถล่ม
นักท่องเที่ยวต้องมีวีซ่าอินเดียด้วยหากต้องการเดินทางผ่านทางนี้
กลับสู่สารบัญ1.2. ด่านซัมดรุปจงคา
ด่านนี้อยู่ทางภาคตะวันออกของภูฏาน ติดกับรัฐอัสสัม
สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือ สนามบินกูวาฮาติ รัฐอัสสัม ของอินเดีย อยู่ห่างประมาณ 2 ชั่วโมงทางรถ
ข้อจำกัด
สำหรับผู้ที่ใช้วีซ่าอินเดียแบบ e-Visa จะสามารถใช้เข้า/ออกอินเดียที่เมืองกูวาฮาติได้เฉพาะทางเครื่องบิน ไม่สามารถใช้กับการเดินทางเข้า/ออกทางรถ
ดังนั้นหากมีวีซ่าอินเดียแบบ e-Visa ก็จะสามารถบินจากสนามบินกูวาฮาติ ไปยังสนามบินพาโร ได้ แต่เที่ยวบินมีเพียงสัปดาห์ละ 2 เที่ยวเท่านั้น หากสนใจเข้าทางนี้ ให้สอบถามเพื่อวางแผนการเดินทางก่อนล่วงหน้า
หากต้องการเดินทางเข้า/ออก ภูฏานจากอินเดียผ่านพรมแดนเมืองกูวาฮาติ ต้องเป็นวีซ่าอินเดียติดเล่มเท่านั้น (ต้องไปยื่นขอทำวีซ่าที่ศูนย์รับทำวีซ่าอินเดียในประเทศนั้นๆ) หากท่านมีวีซ่าอินเดียแบบนี้ ก็สามารถบินลงที่สนามบินกูวาฮาติ แล้วทางทัวร์จะนำรถมารับท่านจากสนามบินแล้วเดินทางเข้าภูฏานที่ด่านซัมดรุปจงคา
การเดินทางเข้าภูฏานที่ด่านซัมดรุปจงคา เหมาะกับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันออกของภูฏานเป็นหลัก แต่ก็สามารถท่องเที่ยวต่อไปยังภาคตะวันตกได้ด้วย เพราะมีสนามบินภายในประเทศที่บินระหว่าง สนามบินโยตงลา ไปยังสนามบินพาโร ได้ เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก 30 ที่นั่ง และเที่ยวบินมีจำกัด ไม่ได้บินทุกวัน และอาจมีการยกเลิกบินในกรณีที่ฟ้าปิด
ทาง Global Tour Planner สามารถจัดทริปเที่ยวฝั่งตะวันออกของภูฏานได้หลากหลาย ถึงแม้ฝั่งนี้จะมีความเจริญน้อยกว่าทางภาคตะวันตก แต่ก็มีความสวยงาม ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน
หมายเหตุ ด่านซัมดรุปจงคานี้มีแนวโน้มจะถูกปิด อันเนื่องมาจากมักมีเหตุการณ์ไม่สงบในรัฐอัสสัมของอินเดีย
กลับสู่สารบัญ1.3. เอกสารที่ใช้เมื่อเดินทางเข้าภูฏานทางบก
- พาสปอร์ตตัวจริง เล่มเดียวกับที่ใช้ขอวีซ่าภูฏานเท่านั้น
- ใบวีซ่าภูฏาน ให้ปริ๊นเป็นกระดาษ ถ่ายสำเนาไว้หลายใบ ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่ด่าน 1 ใบ และเก็บไว้กับตัว 1 ใบ เพราะต้องใช้แสดง ณ จุด check post ตลอดทาง
หากถือสัญชาติ อินเดีย บังคลาเทศ และ มัลดีฟ ก็สามารถใช้บัตรประชาชนแทนพาสปอร์ตได้ และใบวีซ่าก็จะเป็นใบ Permit แทน
กลับสู่สารบัญ2. การเดินทางเข้าภูฏาน ทางอากาศ
ภูฏานมีสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียวคือ สนามบินนานาชาติพาโร นอกนั้นเป็นสนามบินภายในประเทศ
สนามบินนานาชาติพาโร ตั้งอยู่ที่เมืองพาโร ทางภาคตะวันตกของภูฏาน อยู่ห่างจากเมืองหลวงทิมพู 1 ชั่วโมงครึ่งทางรถ
ปัจจุบันมี 2 สายการบินที่ทำการบินพาณิชย์ คือ สายการบินดรุกแอร์ และสายการบินภูฏานแอร์ไลน์
ใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯกี่ชั่วโมง
หากเป็นเที่ยวบินตรง จะใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง หากเป็นเที่ยวบินแวะ ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง
สนามบินนานาชาติพาโร ติดอันดับสนามบินที่หวาดเสียวที่สุดในโลก เพราะมีรันเวย์ที่สั้นเพียง 2 ก.ม. ทำให้ต้องใช้เครื่องบิน A380 เป็นหลัก จุผู้โดยสารประมาณ 200 คนต่อเที่ยว และนักบินจะต้องผ่านการฝึกฝนอย่างดี ทำให้มีนักบินที่ได้ใบอนุญาตนำเครื่องขึ้นลงที่สนามบินนี้ไม่เกิน 10 คน
สิ่งที่ประทับใจกับการบินเข้าภูฏาน อันดับหนึ่งเลยคือ วิว วิวเมื่อเข้าเขตภูฏาน จะเพลิดเพลินกับวิวทิวเขา ยอดเขา ไปตลอดทางจน Landing หากในวันฟ้าใส ระหว่างทางก่อนเข้าภูฏานท่านจะได้เห็นวิวยอดเขาสูงระดับโลก มาดูกันว่าเส้นไหนเห็นยอดเขาสูงอะไรยังไงบ้าง
– หากบินเส้นทาง กาฐมัณฑุ – พาโร เป็นเส้นทางที่จะได้เห็นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (สูงที่สุดของโลก) ได้สวยที่สุดของเส้นทางบินเข้าภูฏานทั้งหมด
– สำหรับเส้นทาง กัลกัตตา – พาโร, บักโดรกา – พาโร จะได้เห็นวิวยอดเขาคังเจงจุงก้า (อันดับสามของโลก) และยอดเขาเอเวอร์เรสต์
ทั้งสองสายการบินมีเที่ยวบินเข้าภูฏานจากเมืองใดบ้าง
กลับสู่สารบัญ2.1. สายการบินภูฏานแอร์ไลน์
- เที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ปกติวันละ 1 เที่ยวทุกวัน (ในช่วงไฮซีซั่น อาจมีไฟล์ทเสริมบ้าง เป็นกรณีพิเศษ) โดยจะมีเส้นทางบิน กรุงเทพฯ – กัลกัตตา – พาโร ทั้งขาไปและกลับ
เครื่องบินเหินฟ้าจากสนามบินสุวรรณภูมิ แวะจอดรับ/ส่งผู้โดยสารที่สนามบินกัลกัตตา ประเทศอินเดีย โดยจอด 30 นาที รวม landing/take off ก็ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ผู้โดยสารที่ไม่ลงกัลกัตตาไม่ต้องลงจากเครื่อง
ลูกเรือจะทำการแจกอาหารว่างช่วงแรก กรุงเทพฯ – กัลกัตตา และเสริฟอาหารหนัก ช่วง กัลกัตตา – พาโร
ไฮไลท์ของเส้นทางนี้คือ หลังจากที่เครื่อง take off จากกัลกัตตา 10 นาที ในวันฟ้าใส นักบินกัปตันก็จะเริ่มประกาศว่า เห็นยอดเขาคังเจงจุงก้า ที่สูงเป็นอันดับสามของโลก และตั้งแต่นั้นท่านก็ไม่สามารถละสายตาจากหน้าต่าง เพราะวิวจะเริ่มเปลี่ยนเป็นทิวเขาสีเขียวๆไปตลอดทาง เพราะนั้นเป็นตัวบอกว่า เข้าสู่เขตน่านฟ้าภูฏานแล้ว ความสวยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจน landing จะเห็นป้อมรินปุง
- เที่ยวบินจากเนปาล – กาฐมัณฑุ – พาโร เส้นทางนี้มีความสวยงามมาก เป็นเส้นทางที่ได้เห็นยอดเขาเวอร์เรสต์ที่ดีที่สุดในบรรดาทุกเส้นทางบินเข้าภูฏาน
- ในช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม สายการบินภูฏานแอร์ไลน์จะเปิดเส้นทางบินเพิ่ม คือ กรุงเทพฯ – กายา – พาโร
2.2. สายการบินดรุกแอร์
เป็นสายการบินแห่งชาติภูฏาน
สายการบินนี้จะมีเส้นทางบินจากหลากหลายเมือง
(1) เที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ สู่เมืองพาโร มีบินทุกวัน บางวันในช่วงไฮซีซั่น อาจมีการเสริมไฟล์ทบินได้ โดยแต่ละวันบินผ่านเมืองต่างๆตามเส้นทางบินดังต่อไปนี้
-
- กรุงเทพฯ – พาโร บินตรง
- กรุงเทพฯ – ดักก้า บังคลาเทศ – พาโร
- กรุงเทพฯ – บักโดรก้า อินเดีย – พาโร เส้นทางนี้มีโอกาสได้เห็นยอดเขาคังเจงจุงก้า และยอดเขาเอเวอร์เรสต์ในวันฟ้าใสด้วย
- กรุงเทพฯ – กูวาฮาตี อินเดีย – พาโร
- กรุงเทพฯ – กายา – พาโร (เส้นทางนี้เปิดเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม)
(2) เที่ยวบินจากสิงคโปร์ สู่เมืองพาโร ไม่ได้บินทุกวัน
(3) เที่ยวบินตรงจากอินเดีย เส้นทาง เดลี – พาโร มีบินทุกวัน
(4) เที่ยวบินตรงจากเนปาล เส้นทาง กาฐมัณฑุ – พาโร มีบินทุกวัน เป็นเส้นทางบินที่สวยที่สุดของเส้นทางบินเข้าภูฏานทั้งหมด เพราะสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ใกล้กว่าเส้นทางอื่นๆ
สายการบินดรุกแอร์มีแผนการเปิดเส้นทางบินเพิ่มในอีกหลายเส้นทาง
กลับสู่สารบัญ2.3. เอกสารที่ใช้เมื่อเดินทางเข้าภูฏานทางอากาศ
– ตั๋วเครื่องบิน e-Ticket
– ใบวีซ่าภูฏาน ให้ปริ๊นออกมา และแสดง ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน หากไม่มีจะไม่สามารถเช็คอินได้
– พาสปอร์ต เล่มเดียวกับที่ใช้ขอวีซ่าภูฏานเท่านั้น
กลับสู่สารบัญอย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่จะเข้าภูฏาน ทุกคนต้องทำวีซ่าท่องเที่ยวล่วงหน้า และต้องติดต่อผ่านทางบริษัทท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่สามารถไปขอวีซ่าด้วยตัวเอง
อ่านวีธีการขอวีซ่าออนไลน์ได้ที่บทความนี้
วิธีการขอวีซ่าภูฏานอ่านเพิ่มเติม: ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับภูฏาน